ประเด็นทางสังคม (Questão Social) ของ พระเจ้ามานูแวลที่_2_แห่งโปรตุเกส

พระเจ้ามานูแวลที่ 2 ขณะเสด็จไปพระราชพิธีเปิดสมัยการประชุมกอร์เตสโปรตุเกส (รัฐสภาโปรตุเกส)อย่างเป็นทางการ ที่กรุงลิสบอน พ.ศ. 2451

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ปัญญาชนและนักการเมืองได้ให้ความสนใจไปที่ชนชั้นแรงงานในเมืองอันเป็นผลมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในโปรตุเกส เนื่องจากอุตสาหกรรมระดับล่างไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ แต่เป็นที่มาของวิกฤตทางเศรษฐกิจและการแทรกแซงจากพรรคสาธารณรัฐนิยม ซึ่งเชื่อว่าการปกครองระบอบสาธารณรัฐจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ปฏิกิริยานี้ถูกนำไปวิเคราะห์และหาวิธีการแก้ไขปรากฏการณ์ครั้งนั้นในฐานะ Questão Social (ประเด็นทางสังคม)

พรรคสังคมนิยมเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก และไม่เคยดำรงอยู่ตั้งแต่พ.ศ. 2418 แต่ไม่เคยเป็นตัวแทนในรัฐสภา ไม่ได้เป็นเพียงเพราะไม่ได้รับความนิยม แต่เป็นเพราะพรรคสาธารณรัฐนิยมเป็นตัวแสดงหลักที่ไม่พอใจอย่างรุนแรงในระบบการเมือง พระมหากษัตริย์ทรงดำเนินการบางอย่างโดยมิทรงได้ละเมิดข้อจำกัดในรัฐธรรมนูญ แต่ทรงสร้างแรงจูงใจแก่พรรคสังคมนิยมให้ถอนหรือลดการสนับสนุนต่อพรรคสาธารณรัฐนิยม ในปีพ.ศ. 2452 พระเจ้ามานูแวลทรงเชิญ ลียง ปัวซงด์ นักสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศสให้เดินทางมาที่ประเทศ เพื่อทำการตรวจสอบสภาพแวดล้มทางสังคมและถวายรายงานให้พระองค์ทรงทราบ ในเอกสารของเขา ลียงได้ออกมาปกป้องหนทางเดียวที่จะต่อสู้กับระบอบอุปถัมภ์ (clientelism) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยระบบของรัฐบาลหมุนเวียนที่จะปรับโครงสร้างองค์การของการทำงานและหน้าที่ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วยความกระตือรือร้น พระมหากษัตริย์ทรงเขียนถึง เวนเซสเลาส์ เดอ เซาซา เปเรย์รา เดอ ลิมา ประธานคณะรัฐมนตรี (นายกรัฐมนตรี)ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2452 เพื่อทรงให้เขาตระหนักถึงการปฏิรูปพรรคสังคมนิยม (ภายใต้การนำของ อัลฟรีโด อควิเลซ มอนเตเวอร์ดี)และทรงเตือนให้เขานึกถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันกับฝ่ายสังคมนิยม มีความตอนหนึ่งว่า

...ดังนั้นเราจะทำให้การสนับสนุนจากพรรคสาธารณรัฐนิยมต่อพวกเขา (สังคมนิยม) ไม่มีความหมาย และปรับทิศทางของพวกเขาให้เป็นพลังที่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นประโยชน์และมีประสิทธิผล— พระเจ้ามานูแวลที่ 2 แห่งโปรตุเกส

พระมหากษัตริย์ยุโรปทั้งเก้าพระองค์ขณะเข้าร่วมพระราชพิธีฝังพระศพพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักรในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2453
ประทับยืนจากซ้าย:สมเด็จพระราชาธิบดีโฮกุนที่ 7 แห่งนอร์เวย์, พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย, พระเจ้ามานูแวลที่ 2 แห่งโปรตุเกส, สมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี, พระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งกรีซและสมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 แห่งเบลเยียม
ประทับนั่งจากซ้าย:สมเด็จพระเจ้าอัลฟองโซที่ 13 แห่งสเปน, สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักรและสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 8 แห่งเดนมาร์ก

อีกทั้งสมเด็จพระพันปีหลวงอเมลีทรงตรัสถึงการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของฝ่ายสาธารณรัฐนิยมและมุมมองต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในช่วงนั้นว่า

พวกเขา (ฝ่ายสาธารณรัฐนิยม) ได้ออกมาแสดงความพลังบนท้องถนนของลิสบอน ดังเช่น ในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2452 ซึ่งมีผู้คนมารวมกันถึง 50,000 คนด้วยความมีวินัยที่น่าประทับใจ ได้สะท้อนกังวานไปด้วยการจลาจลที่ก่อขึ้นในสภาโดยผู้แทนรัฐสภาฝ่ายสาธารณรัฐนิยมบางคน มันเกิดขึ้นในกลางคืนของวันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งฉันเข้าใจว่ามีพระมหากษัตริย์เป็นเดิมพัน เมื่อพระมหากษัตริย์จะทรงถูกหรือผิด ได้ถูกโต้แย้งหรือปฏิเสธโดยส่วนหนึ่งของความคิดเห็น ซึ่งพระองค์ไม่สามารถตอบสนองบทบาทการเป็นอันหนึ่งอันเดียวของพระองค์ได้— สมเด็จพระพันปีหลวงอเมลีแห่งโปรตุเกส[6]

แม้จะมีการติดต่อที่ทำโดยรัฐบาลของอาร์เทอร์ อัลเบอร์โต เดอ คัมโปส เฮ็นริเกส์กับอเซโด จีเนโค แห่งฝ่ายสังคมนิยม เวนเซสเลาส์ถือว่าเป็นการยากเนื่องจากการทำงานในสภาถูกคว่ำบาตรโดยฝ่ายอนาธิปไตยและสาธารณรัฐนิยม ส่วนหนึ่งคือ ฝ่ายสังคมนิยมมีการแสดงออกอย่างสนใจเกี่ยวกับการสนับสนุนทางราชวงศ์ระหว่างพระเจ้ามานูแวลและอัลฟรีโด อควิเลซ มอนเตเวอร์ดี หลังจากนั้นมอนเตเวอร์ดีได้ถวายการรายงานต่อพระมหากษัตริย์ในเรื่องความล้มเหลวของสหภาพการค้าในรัฐสภาเดือนตุลาคม พ.ศ. 2452 แต่อย่างน้อยได้เป็นแบบแผนทางการระหว่างฝ่ายสังคมนิยมและรัฐบาลแม้ว่าพวกเขาจะสนับสนุนงานของปัวซงด์ ช่วงรัฐบาลของอันโตเนียว เทเซรา เดอ เซาซาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2453 รัฐบาลได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาการจัดตั้ง Instituto de Trabalho Nacional (สถาบันแรงงานแห่งชาติ; Institute of National Work) ที่ซึ่งประกอบด้วยฝ่ายสังคมนิยมสามคนรวมทั้งอเซโด จีเนโคด้วย อย่างไรก็ตาม อควิเลซ มอนเตเวอร์ดีได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะกรรมาธิการยังขาดทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรด้านสมาชิกถาวรและการขนส่งที่ไม่จำกัด เพื่อให้ฝ่ายสังคมนิยมสามารถส่งเสริมการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขาได้ พระเจ้ามานูแวลที่ 2 ทรงมีพระราชวินิจฉัยถึงรัฐบาลผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการว่าพระองค์ทรงเห็นด้วยกับการก่อตั้งสถาบันแรงงานแห่งชาติ แต่จัดตั้งในเดือนกันยายนซึ่งสายเกินไปสำหรับระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ

ในระหว่างรัชกาลของพระองค์ ทรงเสด็จประพาสทางตอนเหนือของโปรตุเกสหลายครั้ง รวมทั้งสเปน, ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ซึ่งพระองค์ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์จากสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักรในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2452 พระองคืทรงได้รับการปลูกฝังให้ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่กลยุทธ์ด้านภูมิศาสตร์ทางการเมืองซึ่งยังคงดำเนินการตามแบบของพระราชบิดาของพระองค์ แต่ยังคงส่งเสริมสถานะของพระองค์บนราชบัลลังก์ด้วยพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ราชสำนักยังคงพิจารณาถึงการจัดการอภิเษกสมรสระหว่างพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์บรากังซากับเจ้าหญิงอังกฤษซึ่งจะมีความปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองจากสหราชอาณาจักรในความขัดแย้งใดๆที่จะเกิดขึ้น แต่ความไม่มั่นคงของประเทศ การลอบปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์และเจ้าชายรัชทายาท และการเจรจาที่ยืดเยื้อได้จบลงด้วยการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร เป็นจุดจบของข้อเรียกร้องเหล่านี้ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระชราแห่งอังกฤษทรงเป็นพระมหามิตรส่วนพระองค์ของพระเจ้าคาร์ลอส พระองค์จะทรงเป็นผู้ปกป้องที่ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์บรากังซา และเมื่อปราศจากพระองค์ รัฐบาลเสรีนิยมแห่งอังกฤษจึงไม่ให้ความสนใจที่จะค้ำจุนระบอบราชาธิปไตยแห่งโปรตุเกส

ใกล้เคียง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ

แหล่งที่มา

WikiPedia: พระเจ้ามานูแวลที่_2_แห่งโปรตุเกส http://www.mafra.net/ericeira/index.php http://www.laicidade.org/wp-content/uploads/2008/0... http://www.regicidio.org http://www.citi.pt/cultura/historia/personalidades... http://www.fmsoares.pt/aeb/crono/id?id=00635 http://www.fmsoares.pt/aeb/crono/id?id=00725 http://www.fmsoares.pt/aeb/crono/id?id=034854 http://www.fmsoares.pt/aeb/crono/id?id=034855 http://www.fmsoares.pt/aeb/crono/id?id=040981 http://www.fmsoares.pt/aeb/crono/id?id=040983